วันอังคารที่ ๑ เมษายน พ.ศ. ๒๕๕๑

หลังอาน (จักรยาน) ผลงานชั้นดีของ บินหลา สันกาลาคีรี

ผู้เขียน : บินหลา สันกาลาคีรี
สำนักพิมพ์ : มติชน
จำนวนหน้า : ๒๒๐ หน้า
ราคา : ๑๔๐ บาท
ระดับความชอบ : ๙.๕/๑๐

หนังสือเล่มนี้ซื้อมาเก็บไว้นมนาน เพราะได้ยินสรรพคุณมามากมาย จับมาอ่านครั้งหนึ่ง ได้ไม่กี่หน้า ก็วางซะงั้น

จนมาอ่านบทความของหนุ่มเมืองจันท์ถึงหนังสือ ๔ เล่ม ที่แนะนำให้นักศึกษาอ่าน ได้แก่
๑. หนังสือชุด คุยกับประภาส (ชลศรานนท์)
๒. ความฝันโง่ๆ ของวินทร์ เลียววารินทร์
๓. ชีวิตนี้ไม่มีทางตัน ที่หนุ่มเมืองจันท์เขียนประวัติคุณตัน
๔. หลังอาน เล่มนี้แหละครับ

ลำดับแรกมีไว้ครอบครอง และอ่านหมดแล้ว แปดเล่ม ขอแนะนำให้อ่านเช่นกัน ลองอ่านรีวิว
สองเล่ม คือ แมงกะพรุนถนัดซ้าย และ ตัวหนังสือคุยกัน เผื่อจะจุดประกายความอยากขึ้นมาบ้าง

เล่มที่สอง และ สาม ยังไม่ได้อ่าน

ส่วนเล่มนี้ ไหนๆ ก็มีในมือแล้ว อ่านเสียเลยดีกว่า พอดีวันก่อนได้ไปปั่นจักรยาน กับชมรมจักรยานที่ทำงาน ที่เขื่อนป่าสักชลสิทธิ์ ยามเย็น รู้สึกดี เอารูปมาฝากเสียหน่อย










อารมณ์อยากรู้เรื่องจักรยาน เลยทวีคูณ อ่านเลยเล่มนี้
ทำไมต้องหาแรงบันดาลใจมากมายขนาดนี้ สำหรับหนังสือเล่มนี้

อ่านแล้วไม่ผิดหวัง สมคำร่ำลือ อยากบอกว่าเข้าข่าย Must Read เลยครับเล่มนี้

อ่านบินหลามาสองเล่มแล้วคือ เจ้าหงิญ และ คิดถึงทุกปี ตามลำดับ ชอบเล่มหลังมากกว่าเล่มแรก
เล่มหลังอานชอบมากที่สุดเลยครับตอนนี้ ในบรรดาหนังสือของบินหลาที่ได้อ่าน

เสน่ห์มากมายในเล่มนี้ ทั้งการเล่าเรื่อง สำนวน ประสบการณ์การทำหนังสือพิมพ์คงเป็นสิ่งที่ส่งเสริมการเล่าเรื่องได้อย่างดีมาก

เปิดเรื่องมาสไตล์คาวบอยเลย อ้อ เริ่มจริงๆ ต้องมูลเหตุการย้ายถิ่นฐานก่อน แต่ชอบการบรรยายแบบคาวบอย ประมาณว่าม้า เปลี่ยนเป็นเสือภูเขา ปืนเป็นกล้องถ่ายรูป
อุปกรณ์มาตรฐานที่เห็นคือ สมุดบันทึก และอุปกรณ์วาดรูป

มีเคล็ดลับเกี่ยวกับจักรยานแฝงในเล่มมากพอดู เช่น การวัดความสูงของอานรถ ทานรักแร้เข้ากับอาน ยืดแขนจนสุด ขยับอาน จนกระทั่งปลายนิ้วกลางแตะตรงกลางดุมจานโซ่หน้าพอดี

ทริปหลักๆ ในเล่มมีสองทริป กับหนึ่งความประทับใจ
หนึ่งความประทับใจคือ ปั่นขึ้นดอยสุเทพ เพราะอายดอกบัว
ทริปแรก ไปลาวกับลูกหมอประเวศ วะสี ชื่อปาน ไปเจอเพื่อนสมัยอนุบาลชาวสงขลาที่ฝั่งลาว เพราะวิถีเขาตรงกัน เลยได้เจอกัน
บทเจอเพื่อนเก่า ประทับใจครับ

อีกทริปคือ เชียงใหม่-กรุงเทพฯ ที่ยาวนาน ผ่านอุปสรรคมากมาย ท้อแท้จนบางครั้งอยากยกเลิก แต่กลับมาฮึดจนได้
พานพบคนดีมากมาย
การบรรยายผู้คนในเล่มนี้ สุดยอดครับ คล้อยตามเลย

ชอบที่แวะห้วยขาแข้ง รัก สืบ นาคะเสถียร มากเหมือนกันครับ อยากไปไหว้อนุสาวรีย์ท่านสักครั้ง คงจะได้ไปซักวัน
วันก่อนทราบข่าวว่า พื้นที่ป่าบ้านเราเหลือ ๑๘% น่าใจหาย
เห็นข่าวการตัดต้นไม้ในป่าสงวน ยิ่งใจหายครับ จะทำร้ายโลกกันไปถึงไหนครับ
ผมว่าใครตัดต้นไม้วันนี้ เป็นอาชญากรของโลกเลยครับ ไม่เวอร์หรอกนะครับ ลองพิจารณาดู ไม่ปลูกไม่ว่า แต่อย่าตัดครับ

บางอารมณ์บินหลาก็ตัดสินคนแบบผิดๆ เขียนไว้น่าติดตามเลย ลองอ่านดูช่วงที่พระสงฆ์หุงหามื้อเย็นให้ทานครับ อคติมาก่อน ก็แบบนี้แหละครับ

พี่จุ้ย ศุ บุญเลี้ยง มาหลายตอนเลย อย่างเช่นที่บินหลาปั่นไปหาโรงเรียนที่เคยออกค่ายกับพี่จุ้ย แล้วเล่าประสบการณ์ครั้งนั้นให้เด็กๆ ฟัง สื่อเรื่องการศึกษาในปัจจุบันได้บ้างนะครับ

มีคำหนึ่งที่เคยอ่านเจอ "การเดินทางเป็นวัตถุดิบของนักเขียน" ท่าจะจริง
ไม่ออกเดินวันนี้ ไม่มีทางได้ประสบการณ์ดีๆ ครับ
ออกเดินทางด้วยหัวใจเปิดกว้าง รับสิ่งใหม่ๆ บันทึกประสบการณ์ เอาไว้ให้ตัวเองจดจำ หรือแบ่งปันความฝันให้คนอื่นๆ ได้ชื่นชม

อ่านเล่มนี้ รู้สึกอย่างนี้ครับ

อ่านเล่มนี้ ดีใจที่เป็นคนสงขลา ก็มีนักเขียนซีไรต์สามคนแล้วนี่ครับ ไม่เกี่ยวกับหนังสือ แต่แอบปลื้มทุกที ที่เจอคนบ้านเดียวกัน คนบ้านนอกก็อย่างนี้แหละครับ

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=amp-atom&month=03-2008&date=10&group=3&gblog=78

ไม่มีความคิดเห็น: