วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๑

a day story : The story of the modern rebel



ผู้เขียน : วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์
สำนักพิมพ์ : a book
จำนวนหน้า : ๑๙๗ หน้า
ราคา : ๔๐ บาท (ปี ๒๕๔๗)
ระดับความชอบ : ๙.๕/๑๐

เพิ่งจะมาเป็นสาวกของนิตยสาร a day ไม่นาน คงเพราะคอลัมน์สุดโปรด ฟาสต์ฟู้ดธุรกิจ ของพี่ตุ้ม หนุ่มเมืองจันท์ พูดถึงบ่อยๆ พี่ตุ้มเรียก a day ว่า นิตยสารของคนช่างคิด
แต่อ่านหนังสือจากสำนักพิมพ์ a book มาหลายเล่มแล้ว เช่น Nine lives, โตเกียวไม่มีขา, กัมพูชาพริบตาเดียว และ นายเท้าซ้าย เด็กชายเท้าขวา เป็นต้น

เมื่อได้สัมผัสกับนิตยสาร a day ก็มีคอลัมน์แนะนำหลายๆ เรื่องน่าสนใจ รวมถึง Website จนได้พบ Web แลกของ http://www.coolswop.com ก็เลยเข้าไปใช้บริการอย่างต่อเนื่อง ของเหลือใช้ของเราอาจมีประโยชน์กับคนอื่นก็ได้นะครับ ขจัดความรกรุงรัง และช่วยลดโลกร้อนได้อีกทางหนึ่งด้วย

หนังสือเล่มนี้ก็ได้มาจากการแลกของครับ เมื่อได้อ่านทำให้ทราบจุดกำเนิดของ a day ยอมรับเลยว่าสุดยอด คิดได้ไงครับพี่

ผมว่าหลายคนคงเคยได้ยินเรื่องนิตยสาร i-D ที่เป็นเรื่องของหนุ่มชาวอังกฤษที่รักการทำหนังสือเป็นชีวิตจิตใจ เขาลงมือทำนิตยสารด้วยเงินตัวเอง โดยการโรเนียวถูกๆ แจกทุกห้องในอพาร์ตเม้นที่เขาอยู่ ทำไปหลายเดือน เงินหมด เลยตัดสินใจเขียนจดหมายให้ทุกห้องทราบเรื่องราว และถามไปว่าหากต้องการให้นิตยสารเล่มนี้คงอยู่ กรุณาส่งเงินมาสมทบทุน ปรากฎว่าทุกห้องส่งเงินให้ แล้วนิตยสารนี้ก็คงอยู่ และดำเนินชีวิตมาจนขึ้นแผงได้ เรื่องเล่านี้คุณโหน่ง วงศ์ทนง ได้ฟังจากอุดม แต้พานิช และเป็นแรงบันดาลใจ รวบรวมรายชื่อผู้อ่านที่เคยเขียนจดหมายมาตอนที่เป็น บ.ก. ที่ TRENDY MAN ทำให้รวบรวมรายชื่อได้ ๒,๕๐๐ ชื่อ ส่งจดหมายไป ๒,๕๐๐ ฉบับ ชวนคนมาลงขัน ทำหนังสือ a day หนังสือต้นทุนต่ำ คุณภาพสูง

เหมือนเทพนิยาย แต่ชีวิตจริงไม่ง่ายครับ
กว่าจะได้เงินทุนถึงที่ต้องการ ต้องอาศัย ญาติน้ำหมึก จำนวนมากช่วย คอลัมนิสต์หลายคนเขียนถึง แต่เมื่อทุกคนรับรู้ ล้วนมาช่วยกัน เอ ตอนนั้นเราไปอยู่ไหนนะ ทำไมไม่ได้ช่วยซื้อหุ้นกับเขาบ้าง

อีกเรื่องที่คุณโหน่งทำคือ เก็บเกี่ยวความรู้จากผู้รู้ ทุกชื่อเข้าขั้นหัวแถวในวงการนิตยสารไทย หรือนักคิดของไทย ไม่ว่าจะ น้าทิวา, พี่จุ้ย, พี่ตุ้ม หรือ วินทร์ เลียววารินทร์ ไปปรึกษามาหมดแล้วครับ

อีกเรื่องที่ชอบคือ วิธีคิด ที่สุดโต่ง เชื่อมั่น และมีทางออกให้ชีวิตเสมอ
ตั้งแต่การเรียนที่เบนเข็มไปมา ต้องยอมรับว่าครอบครัวของคุณโหน่งเปิดกว้างดี
ชอบมากๆ คือเป็นรุ่นพี่มหาวิทยาลัยครับ แม้จะคนละวิทยาเขตกัน
ต้องยอมรับว่าคนดังหรือเก่งๆ จากมหาวิทยาลัยผมมีน้อย เพิ่งเห็นคุณโหน่งนี่แหละ ดีใจจังเลยพี่
ก่อนหน้านี้จะมี กนกพงศ์ สงสมพันธุ์ ที่ชิงจบก่อนกำหนด
ส่วนพี่โหน่งจบตามกำหนดครับ มีเกรดครบทุกตัวด้วย

ได้เกร็ดเรื่องการเลี้ยงลูกที่ควรจะให้โอกาสเด็กไปหาเงินช่วงปิดเทอม ทดลองลำบากบ้าง น่าสนใจ พ่อแม่ไทยรักลูกมากจนไม่ให้เจอชีวิตจริง จะลองนำเอามาปรับใช้นะครับ

คุณโหน่งมีพูดถึงวัยรุ่นสองกลุ่ม ทำไงหนอลูกเราจะเข้าข่ายวัยรุ่นได้เรื่อง ประเภทอยากทำนิตยสาร แต่ไม่ชอบอ่านหนังสือ คงไม่ควร พี่จุ้ยยังเคยบอก อยากเป็นักเขียน ต้องเริ่มจากการเป็นอ่าน อยากเป็นนักวาดรูป ต้องดูแสงเงาให้เป็น
ทุกอย่างมีที่มาตามกฎอิทัปปัตยตาครับ เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้ถึงมี ไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาลอยๆ
เพราะหมั่นอ่าน หมั่นจด จึงเป็นนักเขียนได้ เอ้าสาธุเสียญาติโยม

เล่มนี้อ่านแล้วได้แรงบันดาลใจมากมาย มีคำเด็ดๆ คือ
"แรงบันดาลใจไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นกับใครง่ายๆ เมื่อพบ-จงยึดมันไว้ให้มั่นและหวงแหน"
หาได้จากเล่มนี้ครับ แรงบันดาลใจ

อีกคำเด็ดๆ จากเด็กดื้อ
"เพราะเชื่อว่าวิธีจัดการกับความฝัน คือลงมือทำให้มันเป็นจริง..."

หนังเรื่องหนึ่งให้พึงทำตาม
Jerry Maguire เพราะคุณนั่นแหละเป็น Jerry Maguire ไม่ต้องไปหาที่ไหนหรอก

ท้ายๆ เล่มมีคำขอบคุณถึงบุคคลต่างๆ รู้จักคนเยอะดีจังเลย

ปกหลังมีคนบอกว่าเล่มนี้ห้องสมุดทุกที่ควรมีไว้
เชิด ทรงศรี ผู้ล่วงลับ บอกว่า ควรเป็นหนังสืออ่านนอกเวลาให้นักเรียนได้อ่าน

ผมจะเก็บหนังสือเล่มนี้ไว้ให้ลูกอ่านครับพี่โหน่ง
ขอบคุณมากครับ สำหรับแรงบันดาลใจ



ไม่มีความคิดเห็น: