กำกับ : หว่อง กาไหว่
นำแสดง : ทาเคชิ คาเนชิโร่, หลิน ชิงเสีย, เหลียง เฉาเหว่ย, เฟย์หว่อง
ความยาว : 98 นาที
ระดับความชอบ : 10/10
1 May 1994 เป็นเวลาที่เรื่องราวของหนังเรื่องนี้เกิดขึ้น
วันดังกล่าวเป็นวันเกิดของอาหวู่ ตำรวจหมายเลข 223 ประจำย่าน Chungking ที่เป็นเหมือนถนนข้าวสารในเมืองไทย จึงมีชาวต่างชาติเยอะแยะ
เขาถูกแฟนบอกเลิกเมื่อ 1 April 1994
แต่เขายังไม่เชื่อเฝ้ารอคอยข้อความมาขอคืนดีผ่านเพจเจอร์ เขาโทรศัพท์ไปหาที่บ้านแฟนโดยคุยกับพ่อและแม่แฟน และบอกกับพวกเขาว่าเดี๋ยวแฟนก็ติดต่อกลับมาเอง
คบกัน 5 ปีทำให้อาหวู่รู้จักคุณพ่อคุณแม่เป็นอย่างดี
แฟนของอาหวู่ชอบกินสัปปะรดกระป๋อง เขาเลยซื้อไว้ทุกวัน เลือกกระป๋องที่หมดอายุในวันเกิดเขา เขาเชื่อว่าไม่เกินหนึ่งเดือนแฟนของเขาจะติดต่อกลับมา
แต่ทุกอย่างต้องมีหมดอายุ อาหารกระป๋อง กระดาษ ไม่เว้นแม้แต่ความรัก
บทในหนังดีเหลือเกิน ในช่วงที่พระเอกคิด ยิ้มได้หลายตอนเลย
ประเด็นวันหมดอายุ เคยได้ยินในเรื่อง พลอย มาเรื่องนี้เอามาใช้เต็มๆ มากกว่า ชอบครับ
เรื่องของสาวผมทองก็ตัดมาให้ชมเป๊นระยะ เธอพัวพันกับชาวต่างชาติ แล้วของเธอหายตอนจะไปขึ้นเครื่องบิน เธอเลยออกตาม
ชอบฉากที่ลักพาลูกสาวคนอินเดีย สุดท้ายเธอก็ปล่อย เพราะท่าทางพ่อจะเห็นแก่เงินมากกว่า
หนังยังอยู่ในช่วงที่ไม่มีมือถือ เลยใช้โทรศัพท์บ้านเป็นหลัก
แล้วอาหวู่ก็กินสัปปะรด 30 กระป๋องในคืนก่อนวันเกิด เขาบอกว่าดีนะที่แฟนเขาชอบสัปปะรด หากเป็นทุเรียนเขาคงแย่
แต่ท้องไส้ก็ปั่นป่วน
พระเอกจะไปดื่มเหล้าโทรศัพท์ชวนใครก็ไม่ว่างซักคน สุดท้ายจะมาชวนเด็กในร้านอาหารด่วนแบบ Express แต่เธอก็มีแฟนไปเสียแล้ว
ผู้หญิงคนนั้นชื่อเดียวกับแฟนเขาเลย อาหวู่คิดในใจว่าโดนหักอกจากผู้หญิงชื่อเดียวกันถึงสองคนในคืนเดียวกัน
แล้วเขาก็มาพบสาวผมทอง ที่เพิ่งยิงคนมาหมาดๆ
อาหวู่พยายามจีบเธอ ถามเธอว่าชอบกินสัปปะรดกระป๋องไหม? เพราะเขาไม่รู้จักแฟนเขาดีพอเลยโดนทิ้ง
สาวผมทองที่แสดงโดยหลิน ชิงเสียเลยถามว่าเขาอายุเท่าไหร่
แต่สุดท้ายเขาทั้งสองก็ไปที่โรงแรม สาวผมทองเธอหลับสนิท ส่วนอาหวู่ดูหนังไปสองเรื่อง ทานอาหารไปสี่จาน
เช้านั้นอาหวู่วิ่งกลางสายฝน เขาจะวิ่งเมื่ออกหัก เหงื่อออก น้ำหมดตัวจะได้ไม่ร้องไห้
แล้วก็มาส่งเรื่องต่อเมื่อ Chungking Express มีเด็กหน้าร้านใหม่ชื่ออาเฟ
ซึ่งอาหวู่ไม่ชอบ แต่ต่อมาเป็นคนรักของตำรวจรหัส 663 ที่แสดงโดยเหลียง เฉาเหว่ย
663 อกหักจากแอร์โฮสเตส เขาเลยซึมเศร้า พูดกับของทุกชิ้นในบ้านอย่าให้เสียใจไม่ว่าจะเป็นตุ๊กตาหรือว่าสบู่
แล้ววันหนึ่งแอร์โฮสเตสก็เอาจดหมายฝากไว้ให้คุณตำรวจ เถ้าแก่และทุกคนในร้านแอบอ่าน รวมทั้งอาเฟ
แต่พอจะเอาจดหมายให้พระเอก เขากลับไม่เอา นางเอกเลยเอากุญแจในซองจดหมายแอบไปไขห้องพระเอก และจัดบ้านให้ทุกวัน เปลี่ยนตุ๊กตา เติมปลาในตู้ เปลี่ยนสบู่ แก้วแปรงฟัน ทำสารพัด
แล้ววันหนึ่งพระเอกก็มาเจอ ก็เลยชวนอาเฟออกเดท
ท่าวิ่งของเหลียงเฉาเหว่ยเป็นเอกลักษณ์มาก ตอนดูก็นั่งคิดว่าจะได้เห็นไหม? เหมือนหว่อง กา ไว จะรู้เลยจัดฉากนี้ให้
แต่นัดแรกก็ไม่เจอกัน เถ้าแก่เอาจดหมายอาเฟมาให้แทน
ฝนตกในหลายฉาก รวมถึงฉากนี้ ใครบางคนเลยแนะนำให้ชมภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนฝนตกจะได้อารมณ์มาก
แล้วพระเอกก็ไม่อ่านจดหมาย ทิ้งถังขยะ ฝนตก มาคว้ากลับจากถัง จดหมายเปียกต้องเอาไปอบในตู้ใส่พายในร้านสะดรกซื้อ ดูฉลกเหล่านี้แล้วอินจังเลยครับ
"เขียนจดหมายให้คุณก็คงไม่อ่าน" นางเอกค่อนตอนท้ายเรื่อง แบบว่ารู้นิสัย
ฉากปิดท้ายน่ารัก อิ่มเอม ดูจบยืนยกสองนิ้วหัวแม่โป้งให้ คิดไปถึงคะแนนระหว่าง 9.75 กับ 10 ก็ได้แต่คิดว่าจะกั๊กไปทำไม ถูกใจขนาดนี้
หลายคนบอกจะเหงาเมื่อได้ชม แต่ผมมีความสุข ทุกคนเหงาครับ โดยเฉพาะคนในเมืองใหญ่ อีกทั้งถ้าเราอกหักในเมืองใหญ่ คงเป็นเหมือนนายตำรวจหนุ่มสองคนนี้แหละครับ
อยู่ที่ว่าใครจะมีทางออกให้กับชีวิตได้มากกว่ากัน
พระเอกสองคนในหนังเรื่องนี้ คนแรกใช้วิธีวิ่งออกกำลังกาย แต่ดูจะยังไม่หายจากความเจ็บปวดนะ เมื่อมีคำอวยพรวันเกิดเข้ามาก็อยากให้มันเป็นอย่างนั้นตลอดไป ไม่มีวันหมดอายุ แม้เขาจะเรียนรู้ในตอนต้นแล้วว่าทุกอย่างต้องมีวันหมดอายุ ไม่เว้นแม้ความรัก ก็คงต้องเรียนรู้กันต่อไป เขาอายุแค่ 25 ปีเท่านั้นเอง
ส่วนคนที่สองก็หมกมุ่นกับภาพอดีต คุยกับสิ่งของทุกชิ้นในบ้าน แต่ยังโชคดีที่มีคนมารักและเขาก็เปิดใจกว้างรับรักใหม่ จึงมีทางออกที่สวยกว่า
โดยส่วนตัวชอบเหลียง เฉาเหว่ย เคยคิดเล่นๆ ระหว่างหลิว เต๋อหัว กับ เหลียง เฉาเหว่ย ชอบใครมากกว่า ผมชอบเหลียง เฉาเหว่ย มากกว่านะ ดูแววตาและรอยยิ้มเวลาแกแสดง ดูเป็นธรรมชาติดี และเรื่องนี้พี่แกก็กวาดรางวัลบนเกาะฮ่องกงมาครองในปี 1995 เรียบร้อย
เควนติน ตารันติโน่ เอาไปฉายในอเมริกาก็ได้รับความนิยมทีเดียว
ชอบนางเอกเฟย์หว่องอีกคน ที่แสดงให้เห็นข้อแตกต่างในตอนต้นได้อย่างชัดเจน จากเด็กกะโปโลผอมกะหร่องมาเป็นสาวสวยในตอนท้าย แตกต่างกันมากมาย
เพลงประกอบก็เป็นสื่อได้อย่างดี "ฉันเป็นคนเอาไปไว้ที่บ้านเอง จะมาบอกว่าแฟนเก่าชอบได้ยังไง?"
นี่หากไม่ได้อาเฟ 663 จะเพ้อเจ้อไปถึงไหนนะ
ภาพในหลายตอนหวือหวา ทันสมัยดี
โดยรวมชอบมากครับหนังเรื่องนี้
แสดงความเหงาของคนอกหักในเมืองใหญ่ การทำอะไรบ้าๆ บอๆ ของคนอกหัก และความโรแมนติกได้อย่างลงตัว
เป็น หนังในดวงใจ เรื่องล่าสุดไปเลยครับ
มีความสุขทุกคนครับ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น