วันอาทิตย์ที่ ๑๘ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

Bangkok Marathon

18/11/55
หลังจากวุ่นวายเรื่องนี้มาหลายสัปดาห์ ต้องระดมคนในบริษัทให้มาวิ่ง 200 คนเป็นอย่างน้อยตามที่เจ้านายตั้งเป้าหมายไว้ ได้เรียบร้อยก็ต้องไปสมัคร เงินก็ขอจาก 2 แหล่ง ต้องแบ่งครึ่งไปสมัคร หลังวันที่ 5 ราคาก็จะเพิ่ม 2 เท่า ก็เลยต้องไป Lock ไว้ก่อนครึ่งหนึ่ง คนจัดก็ใจดีให้เราทำแบบนั้นได้ ได้ราคาปกติ แถมยังไปรับเบอร์ เสื้อ และเหรียญได้ก่อนอีก แต่ตัวเองต้องแวะเวียนไปอินทมระ 38 บ่อยเลย 
เมื่อแจกเบอร์ เสื้อ และเหรียญก็เริ่มมีคนยกเลิก แต่ก็น้อย ก็เอาคนที่สนใจมาเสียบ กลัวเสียเงินฟรี วุ่นวายนิดหน่อย บางคนถูกเราปฏิเสธไปว่าเต็มแล้วเมื่อถูกเรียกมาก็ทำหน้าไม่พอใจบ้าง แต่สุดท้ายก็ไปวิ่งกันด้วยดี
มีการไปดูสถานที่ ติดต่อตากล้อง ทำรายการ Check ชื่อ แล้วก็ไปวันจริงตั้งแต่ตีสี่ครึ่ง!
นักวิ่งจากต่างจังหวัดโทร.มาตั้งแต่ยังไปออกจากบ้าน เมื่อไปถึงก็เลยจับถ่ายรูปเสียเลย คนทะยอยมา Check ชื่อสลับกับถ่ายรูปหมู่ เอา Banner ไปฝาก โดยนักวิ่งที่วิ่งไวๆ จะได้ไปเบิกมารอก่อน ไม่ต้องรอเราที่วิ่งช้า 
ปล่อยวิ่งจริงๆ 6.30 น. ปีนี้คนเยอะ ว่ากันว่ามาจากกระแสหนังเรื่อง รัก 7 ปี ดี 7 หน
คนเยอะจริงๆ กว่าจะผ่านจุด Start นานเลย พิธีกรประกาศชื่อบริษัทเราด้วย ผ่าน
วิ่งผ่านหน้าวัดพระแก้ว สนามหลวง เลี้ยวซ้ายขึ้นสะพานปิ่นเกล้า คนเต็มสะพานเลย หลายคนหยุดถ่ายรูป เราวิ่งต่อ ขึ้นสะพานเขาว่าเหนื่อย แต่เราเฉยๆ นะ 
ได้ภาพมาจากพี่ Wild Angle ขอเอามาบันทึกไว้
ซักพักเห็นคนเริ่มสวนมาอีกเลนส์ ใส่แว่นดูนักวิ่งของบริษัทเราที่สวนมา ซักพักก็กลับตัว เอียงซ้ายเข้าสะพานพระราม 8 มองหาตากล้องตามที่นัดไว้ กว่าจะเจอเกือบตีนสะพาน
ภาพสะพานพระราม 8 จากพี่ Wild Angle คนเดิม ขอขอบคุณมา ณ ที่นี้
วิ่งตามทางไปเรื่อง เห็นจุดจ่ายน้ำก็ไม่หยุดดื่ม มาตัดสินใจดื่มตอน 7 กิโลเมตร จุกเลย นี่แค่จิบนะ
มีนักวิ่งของบริษัทวิ่งพร้อมๆ กันหลายคน น้องคนหนึ่งวิ่งบ้างเดินบ้างสุดท้ายก็เข้าเส้นชัยพร้อมกัน แต่เราวิ่งได้ตลอดและรู้สึกว่าเจ็บน้อยมาก คงมาจากการซ้อมมาตลอดและได้วิ่งซ้อมไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
ตอนก่อนออกสตาร์ทนักวิ่งจากระยองบอกว่าเขาเพิ่งวิ่งแค่ 2-3 ปี แต่มาชนะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วด้วย เห็นว่าวิ่งตามตำราอาจารย์ญี่ปุ่น เดี๋ยวถามมาศึกษาดูบ้างดีกว่า จะได้วิ่งไวๆ กับเขาบ้าง
สุดท้ายก็ได้ Workout ตามนี้
ตอนท้ายถ่ายรูปหมู่ ทานอาหาร เดินทางกลับ เรียก Taxi ยากมาก เลยนั่งรถเมล์เอาเลย 2 ต่อก็ถึงบ้าน อาบน้ำ พักผ่อน
เป็นรายการที่วิ่งสนุกสมคำร่ำลือเลยครับ
อย่าลืมดูแลสุขภาพกันนะครับ
มัความสุขทุกคนครับ

วันเสาร์ที่ ๑๐ พฤศจิกายน พ.ศ. ๒๕๕๕

36

ฟิล์ม 1 ม้วนมี 36 รูป


กำกับ/เขียนบท : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์   
นำแสดง : กรมิษฐ์ วัชรเสถียร, วัลลภ รุ่งจำกัด, ณฐพล บุญประกอบ
ระดับความชอบ : 8.5/10

เต๋อ นวพล เป็นมือเขียนบทที่ดีคนหนึ่งในยุคนี้ สัมผัสงานของเขาครั้งแรกเป็นบทความใน a day ที่ทำให้ผมต้องจดชื่อเรื่อง The Illustionist เพื่อหามาชม
เมื่อได้ยินว่าเขาทำหนังสั้น จึงอยากชมมาก
ได้ชมเอาในวันสุดท้ายของโปรแกรม

เป็นเรื่องของคนหาสถานที่ถ่ายหนังและอาร์ท ไดเร็คเตอร์ที่มาทำงานร่วมกัน หลากหลายบทสนทนา ที่นำมาสู่เรื่องหลักคือการถ่ายรูปที่ปัจจุบันถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล ทำให้นิสัยในการถ่ายรูปเปลี่ยนไป นางเอกถ่ายรูปเยอะแล้วก็เอาไปเก็บไว้ใน Harddisk แยกเก็บเป็นปีๆ 
แต่ก็จำไม่ได้หรอกว่าถ่ายอะไรไปบ้าง
บทสนทนาตอนนี้น่ารัก "คิดนานๆ แสดงว่าจำไม่ได้" พระเอกยั่วนางเอก

ผิดกับเมื่อถ่ายกล้องฟิล์ม 1 ม้วนมีเพียง 36 รูป ดังนั้นต้องตั้งใจ คิดแล้วคิดอีกกว่าจะถ่าย เมื่อถ่ายแล้วก็ต้องลุ้นว่ารูปที่ล้างจะออกมาสวยไหม? ต้องเลือกร้านอัดรูปที่โทนสีออมาถูกใจเรา
แต่กล้องฟิล์มมักจะดี ถ่ายทีไรชัดทุกที กล้องดิจิตอลถ่ายแล้วเบลอบ่อยครั้งเลย

หนังเอาเลข 1-36 มาเรียงร้อยเรื่องราว
ภาพโจทย์ Harddisk พัง เพื่อนช่วยซ่อม เรื่องเล่าของเขา รูปถ่ายของเด็กหญิง
ผมว่าทำได้ลงตัวทีเดียว
เพลงประกอบอาจจะดูแยกๆ แปลกๆ แต่ก็พอรับได้
นั่งลุ้นเหมือนกันนะว่าจะจบอย่างไร

นับว่าเป็นหนังสั้นที่ประทับใจเรื่องหนึ่ง บทพูดดี ได้ยิ้มในหลายตอนเลยทีเดียว


อยากดูอีกครับคุณเต๋อ ทำอีกนะ


มีความสุขทุกคนครับ
ฟิล์ม 1 ม้วนมี 36 รูป
กำกับ/เขียนบท : นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์   
นำแสดง : กรมิษฐ์ วัชรเสถียร, วัลลภ รุ่งจำกัด, ณฐพล บุญประกอบ
ระดับความชอบ : 8.5/10
เต๋อ นวพล เป็นมือเขียนบทที่ดีคนหนึ่งในยุคนี้ สัมผัสงานของเขาครั้งแรกเป็นบทความใน a day ที่ทำให้ผมต้องจดชื่อเรื่อง The Illustionist เพื่อหามาชม
เมื่อได้ยินว่าเขาทำหนังสั้น จึงอยากชมมาก
ได้ชมเอาในวันสุดท้ายของโปรแกรม
เป็นเรื่องของคนหาสถานที่ถ่ายหนังและอาร์ท ไดเร็คเตอร์ที่มาทำงานร่วมกัน หลากหลายบทสนทนา ที่นำมาสู่เรื่องหลักคือการถ่ายรูปที่ปัจจุบันถ่ายด้วยกล้องดิจิตอล ทำให้นิสัยในการถ่ายรูปเปลี่ยนไป นางเอกถ่ายรูปเยอะแล้วก็เอาไปเก็บไว้ใน Harddisk แยกเก็บเป็นปีๆ 
แต่ก็จำไม่ได้หรอกว่าถ่ายอะไรไปบ้าง
บทสนทนาตอนนี้น่ารัก "คิดนานๆ แสดงว่าจำไม่ได้" พระเอกยั่วนางเอก
ผิดกับเมื่อถ่ายกล้องฟิล์ม 1 ม้วนมีเพียง 36 รูป ดังนั้นต้องตั้งใจ คิดแล้วคิดอีกกว่าจะถ่าย เมื่อถ่ายแล้วก็ต้องลุ้นว่ารูปที่ล้างจะออกมาสวยไหม? ต้องเลือกร้านอัดรูปที่โทนสีออมาถูกใจเรา
แต่กล้องฟิล์มมักจะดี ถ่ายทีไรชัดทุกที กล้องดิจิตอลถ่ายแล้วเบลอบ่อยครั้งเลย
หนังเอาเลข 1-36 มาเรียงร้อยเรื่องราว
ภาพโจทย์ Harddisk พัง เพื่อนช่วยซ่อม เรื่องเล่าของเขา รูปถ่ายของเด็กหญิง
ผมว่าทำได้ลงตัวทีเดียว
เพลงประกอบอาจจะดูแยกๆ แปลกๆ แต่ก็พอรับได้
นั่งลุ้นเหมือนกันนะว่าจะจบอย่างไร
นับว่าเป็นหนังสั้นที่ประทับใจเรื่องหนึ่ง บทพูดดี ได้ยิ้มในหลายตอนเลยทีเดียว
อยากดูอีกครับคุณเต๋อ ทำอีกนะ
มีความสุขทุกคนครับ