วันพฤหัสบดีที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

Suck Seed ห่วยขั้นเทพ

ความฝัน ความรัก ดนตรีและเพื่อน



กำกับ : ชยนพ บุญประกอบ
นำแสดง :
จิรายุ ละอองมณี (เก้า) รับบทเป็น เป็ด
พชร จิราธิวัฒน์ (พีช) รับบทเป็น คุ้ง / เค
ณัฐชา นวลแจ่ม (แนท) รับบทเป็น เอิญ
ธวัช พรรัตนประเสริฐ (เอิร์ธ) รับบทเป็น เอ็กซ์
ระดับความชอบ : 9/10

ตอนแรกที่อ่านบทสัมภาษณ์ในนิตยสารสีสัน ไม่ค่อยอยากดูเท่าไหร่เพราะผู้กำกับพูดถึงหนังว่าเป็นเรื่องการตั้งวงดนตรีซึ่งไม่มีความทรงจำในเรื่องนี้เท่าไหร่ เพราะไม่ได้เล่นดนตรี แต่ลืมไปว่าหูฟังเสียบที่หูมาตั้งแต่จำความได้ ผมชอบฟังเพลงครับ

มาอ่านเจอใน a day ที่สัมภาษณ์น้องแนท ก็ทำให้น่าสนใจขึ้นมาหน่อย เพราะเธอคือลูกสาวของกีตาร์คิง แหลม มอริสัน

จนน้องที่ทำงานบอกว่าชอบหนังเรื่องนี้มากกว่า กวน มึน โฮ ที่ผมเพิ่งได้ดูและชอบ เลยเพิ่มความอยากพิสูจน์ขึ้นมาอีก

สุดท้ายชื่อพี่เก้ง จิระ มะลิกุล ผู้กำกับในดวงใจเป็นคนโยงใยอยู่เบื้องหลังหนังเรื่องนี้ ทำให้ตัดสินใจไปชม

แล้วก็ไม่ผิดหวัง

หนังปูพื้นตัวละครอย่างแนบเนียน ทำไมพระเอกจึงชอบฟังเพลง และมุกเหมือนมีศิลปินมาร้องเพลงข้างๆ เมื่อฟังเพลงจึงโดนใจมาก หัวเราะทันทีเมื่อเห็นป๊อด โมเดิร์นด็อก มาขับกล่อมเพลง ”ก่อน” ในห้องนอนของพระเอก
มุกนี้ก็ใช้มาเป็นระยะๆ ก็ชอบตลอดนะ

พัฒนาการของเครื่องฟังเพลงก็แสดงเวลาได้ง่ายดี จากซาวเบ้าท์ มาเป็น Walkman แล้วก็ iPod หลายครั้งใช้เพลงสื่อแทนคำพูด

หนังใช้แนวเดินเรื่องไว ตัดฉึบฉับ แนวนี้ชอบเป็นการส่วนตัวครับ ผู้กำกับที่ชอบทำภาพแบบนี้คือ Guy Ritchie, Danny Boyle และ David Fincher

ชอบมุกซื้อเบียร์ขอหลอดด้วยที่สุดเลย ฮาสุดๆ นี่ถ้ามีมุกชนแก้วแล้วเจ็บนิ้วจะครบสูตรเลยครับ

ส่วนฉากหวานๆ ของเป็ดและเอิญก็กำลังดี ไม่เลี่ยน
ฉากเลือกเพื่อนก็แมนดี
ฉากร่ำลากันตอนจบก็เป็นธรรมชาติดี

ฉากง้อเพื่อนของเป็ดในตอนท้ายก็ได้ใจจนน้ำตาซึม
เพื่อน คำนี้มีความหมายมากเหลือเกิน

เพลงประกอบน่าจะเอามารวมเป็นอัลบั้มและขายได้นะครับ เพลงเพราะมาก

โดยส่วนตัวชอบหนังที่เอาความฝันมาใช้งาน ฉากไปดูเวทีประกวดรอบสุดท้าย ชอบมาก เหมือนเด็กญี่ปุ่นทุกคนอยากไปโคชิเอ็งยังไงอย่างงั้น

หนังดีเกินคาด ได้หัวเราะ อิ่มเอมกับเพลง และหอมกลิ่นความฝัน

ไม่มีฝัน ชีวิตก็ไร้ค่า

มีความสุขทุกคนครับ

วันเสาร์ที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๔

ขอบคุณที่รักกัน

ใครกันนะจะดูแลเราตลอดไป



กำกับ : พุฒิพงศ์ สายศรีแก้ว (ลองของ - 2005), พีระศักดิ์ ศักดิ์ศิริ (โหมโรง - 2004) และ สยมภู มุกดีพร้อม (สตรีเหล็ก 2 - 2003)
นำแสดง : ปั๊บ โปเตโต้, สายป่าน อภิญญา, สมชาย ศักดิกุล, ลลิตา ศศิประภา, ทรงสิทธิ์ รุ่งนพคุณศรี, ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว, พ่อดม ชวนชื่น, ณภัทร บรรจงจิตไพศาล
ระดับความชอบ : 9.25/10

เป็นหนังที่พี่แอมป์ ลูกสาววัย 11 ปีขออนุญาตไปดูกับเพื่อน
มาหาข้อมูลคุณพ่อเลยขอไปดูด้วย
ก็สรรพคุณโดนใจเหลือเกินคือ ลูกดูแล้วจะรักพ่อมากขึ้น 
ไม่ดูไม่ได้แล้ว

ยอมรับว่าคาดหวังกับหนังไทยเรื่องนี้
ช่วงแรกเลยได้ข้อติเพียบ บทหนังตัดไปตัดมา ออกจะงงๆ โดยเฉพาะครอบครัวของนายทหาร 

แต่พอถึงจุด Peak ที่ตั้งใจเรียกน้ำตา หนังเรื่องนี้ทำได้ดีเหลือเกินครับ 
สองในสามเรื่องทำผมน้ำตาไหล
อีกเรื่องอิ่มใจจนยกมือไหว้ตามนางเอกไปเลยในตอนท้าย

พี่อะตอมวัย 7 ขวบที่ไปดูด้วย เธอสั่งในโรงภาพยนตร์ว่า "ร้องตอนไหนบอกด้วยนะพ่อ" 
คุณพ่ออมยิ้ม แต่เธอก็ร้องตอนคุณแม่ขวัญตบหน้าลูกชายนะ เธอบอก

ส่วนคุณพ่อปลื้มใจในความเป็นพ่อที่ไม่ว่าลูกจะโตขนาดไหน ก็ยังเป็นเด็กในสายตาพ่อแม่ และท่านพร้อมจะช่วยเหลือเราเสมอ ท่านเป็นพรหมของเราโดยสมบูรณ์ เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขา มีในพ่อแม่ของเราทุกคนครับ
ดังนั้นหากเรามีปัญหา คนที่เราพึ่งได้อยู่ที่บ้านเรานี่แหละครับ
คนเป็นพ่อและแม่ก็ทำตัวให้สมกับเป็นพรหมของลูกนะครับ พรหมวิหารสี่ยึดไว้ให้มั่นเลย
อากงในเรื่องนี้ทำให้ดูแล้วครับ


ฉาก "อั๊วะเจ๊งแล้ว" ทำได้ดีจนกลั้นน้ำตาไม่อยู่
อาตี๋คงลืมไปว่าคำนี้ครั้งหนึ่งก็เคยพูด แล้วก็พ่อคนนี้แหละครับที่ช่วยคลี่คลายปัญหาไปได้
คำคมมากมายครับในตอนนี้
"คนเราต้องใส่รองเท้าที่พอดี" คนโบราณทำรองเท้าที่เหมาะกับแต่ละคน เพื่อสุขภาพของเท้า คนเราเดินลงน้ำหนักไม่เหมือนกัน
"เอ็งยังตัดรองเท้าใส่เองไม่เป็นเลย จะไปตัดรองเท้าให้คนอื่นใส่ได้อย่างไร"
"วิ่งเร็วเกินไป โดยใส่รองเท้าไม่เหมาะ จึงล้มไม่เป็นท่า"
คำของอากงแต่ละคำ สุดยอดครับ
แล้วเรื่องเห่อหลานสาว ทำไมไม่เกิดเป็นผู้ชาย ตัวซวย เครือข่ายลูกค้าที่อากงเคยมีน้ำใจกับพวกเขาล้วนเป็นกัลยาณมิตรในยามยาก 
ประเด็นเหล่านี้ใส่มาอย่างลงตัว กลมกล่อมดี
ดูแล้วรักพ่อมากครับ


ส่วนคุณแม่ก็มาในตอนสองแม่ลูก
ฉากเรียกน้ำตาคือลูกพูดสดุดีความดีของพ่อบนเวที
นักรบไร้อาวุธ คือคำที่ลูกชายเรียกพ่อของเขา เพราะคุณพ่อเป็นหมอทหารที่ต้องอยู่ในสมรภูมิ และมีน้ำใจต่อชาวบ้านสม่ำเสมอ จนเป็นที่รักของชาวบ้าน
ตอนนี้ดูยาก พี่แอมป์ถามว่าคนที่ขาขาดคือคนที่คุณพ่อวิ่งเข้าไปช่วยไหม? เป็นไปได้นะ
แล้วพ่อที่ตายไปแล้วทำไมยังมีออกมาในบางฉาก? ก็น่าคิด เป็นไปได้ว่ายังอยู่ในความทรงจำ หรือเหตุการณ์ที่คุณพ่อออกมานั้นเกิดมานานแล้ว
ไม่ชอบช่วงแรกของตอนนี้ แต่ก็มาเอาตัวรอดช่วงท้าย และจบได้สวยงาม
และที่สำคัญ เสียน้ำตา


อีกเรื่องเป็นพี่ชายที่ต้องดูแลน้องสาวที่เป็นออทิสติก และพี่ชายเป็นทุกอย่างของเธอ ฉากในป่าแสดงได้ชัดมาก
แต่น้องก็สอนพี่ชายในการรับรู้เสียงของธรรมชาติที่แสนจะสวยงาม
ศาสตราจารย์ก็สอนลูกศิษย์ได้ดี
โดยส่วนตัวผมชอบคุณสมชายแสดงนะครับ ชอบมาตั้งแต่เรื่อง 15 ค่ำเดือน 11 และแกก็ยังเล่นได้คงเส้นคงวาดี
น้องสายป่านก็เล่นดี แต่พี่ชายออกจะแข็งไปนิด


ดารารุ่นใหญ่เล่นดีหมด ไม่ว่าจะเป็นกบ ทรงสิทธิ์, หมิว ลลิตา, ปั่น, พ่อดม ชวนชื่น ชอบแกมากเลย เล่่นดี


ดนตรีก็ไพเราะ ลงตัว ชอบฉากฟังเสียงเพลงธรรมชาติ ลม น้ำ ต้นไม้ ทะเล
วิวสวยๆ น่าจะส่งเสริมการท่องเที่ยวได้ด้วยนะ


พี่อะตอมถามว่าทำไมต้องมีตัวหนังสือภาษาอังกฤษที่ล่างจอด้วย บอกเธอไปว่าเอาไว้ฉายที่ต่างประเทศ ไม่รู้เป็นอย่างนั้นไหม?


ช่วงท้ายของทุกตอนเกิดการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี เรื่องที่ปูมาตอนต้นก็นำมาใช้อย่างลงตัว เรียนเย็บรองเท้า, เสื้อทหาร และที่นั่งในรถ ทำได้ดี


ตอนท้ายเรื่องน้องเป๋อยกมือไหว้พระบรมฉายาลักษณ์ในหลวง ผมและลูกยกมือไหว้ตามเธอ
พระองค์เป็นพ่อของเราชาวไทยและดูแลพวกเรามาโดยตลอด


ความรักเป็นสิ่งที่ดีที่โลกนี้มีอยู่ ไม่ว่าจะเป็น รักของพ่อ รักของแม่ หรือรักของธรรมชาติ
"ขอบคุณที่รักกัน" คำนี้น่าจะพูดบ่อยๆ นะ
มีความสุขมากที่ได้ดูเรื่องนี้กับลูกๆ ครับ


หนังดีมาก อยากให้ไปดู
และอยากให้กลับมาพิจารณาว่า ใครกันนะจะดูแลเราตลอดไป และเราต้องดูแลใครแบบนี้บ้าง


มีความสุขทุกคนครับ


Link ที่เกี่ยวข้อง : JUNO ใครกันนะจะดูแลเราตลอดไป